
ผื่นขุยกุหลาบ คือ ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “ขุยกุหลาบ” เพราะชื่อภาษาอังกฤษ Pityriasis แปลว่าขุย (scale) และ rosea ก็มาจาก rose ซึ่งหมายถึงว่าผื่นจะมีสีชมพูเหมือนสีดอกกุหลาบ บ้างก็เรียกว่า “โรคผื่นร้อยวัน” เพราะโดยเฉลี่ยจะหายเองได้ที่ประมาณ 3 เดือน
โรคผื่นขุยกุหลาบพบได้ในทุกเชื้อชาติทั่วโลก โดยมากมักพบในวัยรุ่น และ วัยผู้ใหญ่ (อายุประมาณ 10-35 ปี) อย่างไรก็ตามในเด็กและผู้สูงอายุก็มีรายงานพบผื่นขุยกุหลาบได้เช่นกันแต่พบได้น้อยมาก และอาจมีลักษณะผื่นที่ไม่เหมือนผื่นขุยกุหลาบโดยทั่วไปนัก
โรคนี้พบได้บ่อยประมาณ 0.3-3% ของประชากร พบทั้งในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่อาจพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย 1.5 : 1 เท่า
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีรายงานว่าเป็นการตอบสนองของร่างกายอย่างหนึ่ง หลังการติดเชื้อบางอย่าง โดยเฉพาะเชื้อไวรัสกลุ่ม HHV 7 หรือ หลังการฉีดวัคซีน
โดยทั่วไปผื่นนี้จะคงอยู่ได้นาน 6-8 สัปดาห์ หรือบางครั้งได้นานถึง 3 เดือน หลังจากนั้นผื่นจะค่อยๆ หายไปได้เอง
โรคนี้หายได้เอง การรักษาจึงเป็นการรักษาแบบประคับประคอง กล่าวคือ การทายาสเตียรอยด์ หรือ การรับประทานยาแก้แพ้ ลดอาการคัน ก็เพียงพอ แต่ในกรณีที่เป็นผื่นกระจายตัวมาก อาจรักษาด้วยวิธีรับประทานยาปฏิชีวนะ หรือ ยาต้านไวรัส ก็จะช่วยให้ผื่นหายเร็วขึ้นได้ การฉายรังสีอัลตร้าไวโอเลต เพื่อช่วยให้ผื่นกระจายตัวน้อยลง ลดอาการคัน และหายเร็วขึ้น
เมื่อเป็นโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำอุ่นหรือร้อนจัด เพราะสามารถกระตุ้นให้ผื่นเห่อขึ้นได้ ร่วมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด ก็จะทำให้ผื่นหายเร็วขึ้นได้
โรคนี้เป็นแล้ว มักไม่เป็นซ้ำอีก เนื่องเป็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อเคยเป็นครั้งหนึ่งแล้ว ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันถาวรไว้ ทำให้ไม่เป็นโรคนี้ซ้ำอีก
โดยทั่วไป โรคนี้ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น แต่อาจทำให้เกิดรอยดำหลังการอักเสบได้ เมื่อผื่นหายก็จะจางลง และหายไปในที่สุด
รศ. พญ. เปรมจิต จันทองจีน