ผื่นผิวหนังเรื้อรังในเด็ก (Chronic Pediatric Skin Disorders)
ปัญหาผื่นผิวหนังเรื้อรังในเด็ก
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัญหาของครอบครัวเลยก็ว่าได้
เพราะเมื่อเด็กคัน ก็จะเกา
จนบางครั้งมีรอยเลือดเปื้อนที่นอน
หรือต้องลุกขึ้นมาเกาตอนกลางคืน
ที่มากกว่านั้นก็อาจมีผลให้ง่วงนอนช่วงกลางวัน
มีผลต่อการเรียน
แต่สิ่งที่มากกว่าเรื่องที่มองเห็น
และมักไม่ได้คำนึงถึงกันนัก
คือ เรื่องของผลกระทบต่อจิตใจในเด็กที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง
มีการศึกษาในเด็กที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง
(เช่น #สิว#ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ#สะเก็ดเงิน ผมร่วงเป็นหย่อม ด่างขาว) มากกว่า 1600 คน ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา พบว่า
มากกว่า 70% ของเด็กที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังรู้สึกโดนตีตราทางสังคม (stigmatization)
30% ของเด็กที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังเคย โดนรังแก (bully)
โดยเฉพาะในเด็กที่มีผื่น
ตำแหน่งที่มองเห็นชัด
มีความรุนแรงปานกลางขึ้นไป
การโดนตีตราทางสังคม (STIGMA) ยังมีผลให้
คุณภาพชีวิต (quality of life) ลดลง
ซึมเศร้า (depression) เพิ่มขึ้น
วิตกกังวล (anxiety) เพิ่มขึ้น
ความสัมพันธ์กับเพื่อน (peer relationships) ไม่ดี
โดนรังแก (bully) เพิ่มขึ้น
โดยการตีตราทางสังคมมักพบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย
ปัญหาทางจิตใจที่เกี่ยวข้องกับโรคผิวหนังเรื้อรังในเด็ก
อาจไม่ใช่เรื่องที่เด็กบอกผู้ปกครองหรือแพทย์ที่รักษา
แต่ควรเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ปกครองและแพทย์ควรตระหนักให้ความสำคัญ
เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกวิธีการรักษา
ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดี ข้อเสีย
รวมถึงแนวทางการรักษาที่เหมาะสมทั้งในด้านควบคุมโรค
และการใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคมด้วย
เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยและครอบครัวค่ะ
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน
ที่มา Stigmatization and Mental Health Impact of Chronic Pediatric Skin Disorders ใน JAMA Dermatology 2024
=================
สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายแพทย์
Line@: @Valorclinic หรือ
02-287-4924 (จันทร์-ศุกร์ 9-17 น., เสาร์ 9-12 น.)
=================
#อาจารย์แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
#สะเก็ดเงินรักษาได้#สะเก็ดเงิน#โรคผิวหนัง#เวเลอร์คลินิก#valorclinic#แพทย์หญิงเปรมจิต#จันทองจีน#หมอผิวหนัง#แพทย์ผิวหนัง#โรคสะเก็ดเงิน#รักษาสะเก็ดเงิน#ฉายแสงอาทิตย์เทียม#ยาฉีดสะเก็ดเงิน#ยาฉีดชีวภาพ#โรคผิวหนังเรื้อรัง