ผื่นขุยกุหลาบ (Pityriasis Rosea): รู้จักโรคผิวหนังที่ไม่ติดต่อ รักษาได้ แค่วินิจฉัยให้ตรง

ผื่นขุยกุหลาบคืออะไร

ผื่นขุยกุหลาบ (Pityriasis Rosea) หรือที่เรียกกันว่า “ผื่นร้อยวัน”  เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในประชากรวัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะในช่วงอายุ 10–35 ปี ผื่นชนิดนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ และในผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้เองโดยไม่ทิ้งแผลเป็น อย่างไรก็ตาม ลักษณะผื่นของโรคนี้อาจคล้ายกับโรคผิวหนังอื่น ๆ ที่มีความรุนแรงมากกว่า เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือซิฟิลิสระยะที่สอง จึงควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางผิวหนังอย่างเหมาะสม

ลักษณะของผื่นขุยกุหลาบ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเริ่มมีผื่นวงใหญ่เพียงหนึ่งจุด เรียกว่า Herald patch ซึ่งมักมีลักษณะเป็นวงรี สีชมพูหรือสีส้มแดง มีขอบเขตชัดเจนและขุยบาง ๆ ที่ขอบ พบได้บ่อยบริเวณลำตัว ช่วงอก หรือหลัง

จากนั้นในช่วง 2–10 วัน จะเริ่มมี ผื่นขนาดเล็กจำนวนมาก กระจายตามแนวรอยพับของผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณลำตัวด้านข้าง แผ่นหลัง หรือหน้าท้อง ผื่นมักเรียงตัวตามแนวผิวหนังในลักษณะคล้าย “กิ่งต้นคริสต์มาส” ซึ่งเป็นลักษณะจำเพาะที่ช่วยในการวินิจฉัย

อาการร่วมอื่น ๆ ที่พบได้ ได้แก่:

อาการคัน (พบในประมาณ 50% ของผู้ป่วย)

อาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว หรือไข้ต่ำ (พบน้อย)

ในบางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองโตเล็กน้อย

สาเหตุของโรค

แม้สาเหตุที่แน่ชัดของผื่นขุยกุหลาบจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อว่าอาจเกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันหลังการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะเชื้อในกลุ่ม Human Herpesvirus 6 และ 7 (HHV-6, HHV-7) ซึ่งมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงต้น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผื่นลักษณะคล้าย Pityriasis Rosea อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังการใช้ยาบางชนิด เช่น ACE inhibitors, Metronidazole, Isotretinoin การฉีดวัคซีนบางประเภท ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจ

การวินิจฉัย

แม้ว่าผื่นขุยกุหลาบจะมีลักษณะจำเพาะที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อไม่มี Herald Patch หรือผื่นไม่เรียงตัวตามแบบที่พบทั่วไป แพทย์อาจต้องพิจารณาแยกโรคจากโรคผิวหนังชนิดอื่น เช่น

✅โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ชนิดแบบหยดน้ำ (Guttate Psoriasis)

✅ผื่นซิฟิลิสระยะที่สอง (Secondary syphilis)

✅กลากที่ผิวหนัง (Tinea corporis)

✅ผื่นผิวหนังอักเสบชนิด Pityriasis Lichenoides Chronica

เป็นต้น

แพทย์ผิวหนังจะใช้การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และในบางกรณีอาจพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การนำขุยมาดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ การเจาะเลือด เพื่อแยกโรคอื่นๆ ที่เป็นไปได้

การรักษาและแนวทางการดูแล

โดยทั่วไป ผื่นขุยกุหลาบจะหายได้เองภายในระยะเวลา 6–12 สัปดาห์ โดยไม่ทิ้งแผลเป็น ในบางรายอาจใช้เวลานานถึง 3 เดือนขึ้นอยู่กับสภาพผิวและภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคล

การรักษามุ่งเน้นที่การบรรเทาอาการเป็นหลักโดยแนวทางทั่วไป ได้แก่:

✅ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์อ่อน เพื่อช่วยลดการอักเสบและอาการคัน

✅ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน (Antihistamines) เพื่อลดอาการคันและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ในกรณีที่มีอาการคันมากหรือผื่นกระจายกว้าง แพทย์อาจพิจารณา

✅ฉายแสงอาทิตย์เทียม 
✅ยาต้านไวรัส 

ข้อควรระวัง

ถึงแม้โรคนี้ไม่ใช่โรคอันตรายหรือโรคติดต่อ แต่ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น

❎การอาบน้ำร้อนหรืออยู่ในสถานที่อับชื้น

❎การขัดถูผิวแรง

❎ความเครียดทางอารมณ์

❎การใช้สบู่ที่มีสารระคายเคือง

ผื่นขุยกุหลาบในหญิงตั้งครรภ์
มีรายงาน ในหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ไม่เกิน 15 สัปดาห์และพบผื่นขุยกุหลาบ มีความเสี่ยงของการแท้งบุตรเพิ่มขึ้น  ดังนั้นหากสงสัยว่ามีผื่นคล้ายผื่นขุยกุหลาบ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อการประเมินอย่างเหมาะสม

สรุป

ผื่นขุยกุหลาบ (Pityriasis Rosea) เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่ไม่รุนแรงและไม่ติดต่อ ซึ่งสามารถหายได้เองในผู้ป่วยส่วนใหญ่ การวินิจฉัยที่แม่นยำจากแพทย์ผิวหนังจะช่วยแยกโรคจากภาวะอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างรวดเร็ว

#โรคผิวหนัง #ผื่นผิวหนังอักเสบ #ผื่นขุยกุหลาบ

#คลินิกโรคผิวหนัง #หมอผิวหนัง

===========================

📞 โทร. 02-287-4924  

📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon   

🚗เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7

===========================