ฝุ่น PM2.5 ตัวร้ายกระทบต่อผิวหนัง

PM2.5 กับผลกระทบต่อผิวหนัง: ทำไมมลพิษถึงเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพผิว?

มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ แต่ยังมีผลเสียต่อผิวหนังโดยตรง โดยสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ทำให้ผิวเสื่อมโทรม และลดประสิทธิภาพของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ

PM2.5 มีผลกระทบต่อผิวหนังอย่างไร?

  • ความเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress): อนุมูลอิสระจากมลภาวะกระตุ้นการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • การอักเสบของผิวหนัง (Inflammation): กระตุ้นให้เกิดภาวะผิวอักเสบเรื้อรัง เช่น ผื่นแดง คัน และระคายเคือง
  • การทำลายเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier Disruption): ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและไวต่อการแพ้มากขึ้น
  • กระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิดปกติ (Hyperpigmentation): ส่งผลให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ

โรคผิวหนังที่กำเริบจาก PM2.5

งานวิจัยจากประเทศเกาหลีใต้ที่ศึกษาข้อมูลประชากรกว่า 20 ล้านคน พบว่ามลพิษทางอากาศมีส่วนทำให้โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังรุนแรงขึ้น ได้แก่:

1. ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis)

PM2.5 ทำให้ อาการคัน ผื่นแดง และผิวแห้งลอกกำเริบ โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคผิวหนังภูมิแพ้เดิมอยู่แล้ว

2. โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

สารพิษและโลหะหนักใน PM2.5 สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผื่นสะเก็ดเงินลุกลามมากขึ้น และทำให้ผิวหนังลอกเป็นขุยรุนแรงกว่าเดิม

3. โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)

มลพิษอาจส่งผลให้การผลิตไขมันของต่อมไขมันผิดปกติ ทำให้หนังศีรษะมัน และเกิดรังแคหรือผื่นบริเวณใบหน้าเพิ่มขึ้น

4. โรคโรซาเชีย (Rosacea)

ฝุ่นละอองสามารถกระตุ้นการอักเสบของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง ทำให้หน้าแดง เส้นเลือดฝอยขยายตัว และเกิดอาการแสบคันง่ายขึ้น

วิธีปกป้องผิวจากฝุ่น PM2.5

1. ล้างหน้าและทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง

  • ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์
  • ล้างหน้าทันทีหลังกลับจากนอกบ้าน เพื่อลดการสะสมของมลพิษ

2. เสริมเกราะป้องกันผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์

  • ใช้ครีมบำรุงที่มี Ceramide, Hyaluronic Acid และ Antioxidants
  • ครีมที่มี วิตามินซีและวิตามินอี สามารถช่วยลดผลกระทบจากอนุมูลอิสระ

3. ปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยครีมกันแดด

  • เลือก ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมี PA+++ หรือสูงกว่า
  • ใช้ สูตรกันน้ำและป้องกันมลภาวะ (Anti-Pollution Sunscreen) เพื่อเพิ่มการปกป้องผิว

4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันผิวจากภายใน

  • รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินอี และโอเมก้า 3
  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อลดการแห้งเสียของผิว

5. เลี่ยงการสัมผัสฝุ่นโดยตรง

  • ใส่หน้ากาก N95 หรือ KF94 เมื่อต้องออกนอกบ้าน
  • สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง และอาบน้ำทันทีหลังกลับบ้าน

สรุป

ฝุ่น PM2.5 ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ แต่ยังทำร้ายผิวอย่างเงียบ ๆ และทำให้โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังกำเริบได้ง่ายขึ้น การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดผลกระทบจากมลภาวะ และช่วยให้ผิวแข็งแรง พร้อมเผชิญทุกสถานการณ์

อย่าปล่อยให้ฝุ่นมาทำร้ายผิว ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อผิวที่สุขภาพดีในระยะยาว! 💖

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

Associations of particulate matter with atopic dermatitis and chronic inflammatory skin diseases in South Korea; Cli Exp Dermatol 2022

รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน

=================

สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายแพทย์

Line: @Valorclinic หรือ https://lin.ee/Yiu5pLy

โทรศัพท์ 02-287-4924

วันและเวลาทำการ: (จันทร์-ศุกร์ 9-17 น., เสาร์ 9-12 น.)

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7

=================

#อาจารย์แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนั#สะเก็ดเงินรักษาได้ #สะเก็ดเงิน #โรคผิวหนัง #เวเลอร์คลินิก #valorclinic #แพทย์หญิงเปรมจิต #จันทองจีน #หมอผิวหนัง #แพทย์ผิวหนัง #โรคสะเก็ดเงิน #รักษาสะเก็ดเงิน #ฉายแสงอาทิตย์เทียม #ยาฉีดสะเก็ดเงิน #ยาฉีดชีวภาพ #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #โรคผิวหนัง #drpukskintalk #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #dermatologist