5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน 

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบได้บ่อย และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับโรคนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม หรือเกิดความกังวลเกินความเป็นจริง บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงและแก้ไขความเข้าใจผิด 5 ประการเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน

  1. “โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคติดต่อ”
    เป็นหนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุด โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือความสกปรกแต่อย่างใด แต่อยู่ภายใต้กลุ่มโรคอักเสบของผิวหนังที่มีปัจจัยหลายประการร่วมกัน เช่น พันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกัน ความเครียด ภาวะอ้วน และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ

    การเข้าใจว่าโรคไม่ติดต่อเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดการตีตราทางสังคม และส่งเสริมการดูแลรักษาที่เหมาะสม
  1. “ต้องแกะขุยสะเก็ดออกเพื่อให้หายเร็วขึ้น”
    ผื่นโรคสะเก็ดเงินมักมีลักษณะเป็นผื่นแดงที่ปกคลุมด้วยขุยหนา ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าควรแกะออกเพื่อให้ยาทาออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ผิวหนังบาดเจ็บมากขึ้น กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

    แพทย์มักแนะนำให้ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน เช่น การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาจากแพทย์ผู้รักษา
  1. “โรคสะเก็ดเงินเป็นเพียงโรคของผิวหนังเท่านั้น”
    แม้โรคสะเก็ดเงินจะส่งผลชัดเจนต่อผิวหนัง แต่ในทางการแพทย์ โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับระบบอื่นของร่างกายด้วย องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่าโรคสะเก็ดเงินเป็นภาวะอักเสบเรื้อรังที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ภาวะอ้วนลงพุง ภาวะไขมันในเลือดสูง รวมถึงภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล

    ผู้ป่วยจึงควรได้รับการประเมินแบบองค์รวมในหลายระบบของร่างกาย ไม่ใช่เพียงการดูแลเฉพาะผื่นที่ผิวหนังเท่านั้น
  1. “ความรุนแรงของโรคประเมินจากขนาดพื้นที่ผื่นเท่านั้น”
    หลายท่านอาจเข้าใจว่าความรุนแรงของโรคขึ้นกับขนาดพื้นที่ผื่นบนผิวหนัง แต่ในความเป็นจริง ตำแหน่งของผื่นและผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น ผื่นที่อยู่บริเวณใบหน้า มือ เท้า หนังศีรษะ หรืออวัยวะเพศ แม้มีขนาดเล็กแต่หากส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ก็ถือว่าเป็นโรคในระดับปานกลางถึงรุนแรง

    การประเมินความรุนแรงของโรคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการวางแผนการรักษาร่วมกันระหว่างแพทย์และคนไข้
  1. “โรคสะเก็ดเงินไม่สามารถรักษาได้”
    แม้โรคสะเก็ดเงินจะเป็นโรคเรื้อรังและมีลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ แต่สามารถควบคุมได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาหลากหลาย ได้แก่ ยาทาเฉพาะที่ ยารับประทาน การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Phototherapy) และยาฉีดชีวโมเลกุล (Biologic agents) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อควบคุมการอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ

    การเลือกวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและลักษณะเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมโรค ลดอาการอักเสบ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาว

การเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงินจะช่วยให้ผู้ป่วยและบุคคลรอบข้างมีทัศนคติที่ดีขึ้น ลดการตีตราทางสังคม และส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้ารับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

หากมีข้อสงสัยหรืออาการของโรค ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

#โรคผิวหนัง #แพทย์ผิวหนัง #สะเก็ดเงิน #รักษาสะเก็ดเงิน  #เวเลอร์คลินิก #valorclinic 

===========================

📞 โทร. 02-287-4924  

📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon   

เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7

===========================