
MPOX: โรคผิวหนังติดเชื้อที่ทุกคนควรรู้จัก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “MPOX” หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ ฝีดาษวานร (Monkeypox) ได้กลายเป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อไวรัสที่สร้างความกังวลในระดับโลก โดยเฉพาะในด้านผิวหนัง เนื่องจากผู้ป่วยมักมี ตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และผื่นกระจายทั่วร่างกาย การเข้าใจธรรมชาติของโรคและวิธีการป้องกันอย่างถูกต้องคือกุญแจสำคัญในการควบคุมการระบาด
1. MPOX คืออะไร?
MPOX (เอ็มพ็อกซ์) เป็นชื่อใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ใช้เรียกโรคฝีดาษวานร เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดในแหล่งที่มาของโรค โดยแม้จะมีการค้นพบครั้งแรกในลิง แต่ปัจจุบันพบว่าโรคนี้ ติดต่อจากสัตว์ฟันแทะสู่คน หรือแม้แต่ จากคนสู่คน ได้โดยตรง
2. โรคที่ทั่วโลกต้องจับตา
องค์การอนามัยโลกประกาศให้ MPOX เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
3. อาการของโรค MPOX
หลังได้รับเชื้อ ผู้ป่วยมักมีอาการภายใน 1–3 สัปดาห์ โดยมีลำดับอาการดังนี้:
- มีไข้ หนาวสั่น
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย
- ต่อมน้ำเหลืองโต (เป็นลักษณะเด่นที่แยกโรคนี้จากโรคผื่นไวรัสทั่วไป)
- จากนั้นเกิด ผื่นผิวหนัง ภายใน 1–5 วัน
ลักษณะผื่น:
▪️ เริ่มจากผื่นแดง → ตุ่มนูน → ตุ่มน้ำใส → ตุ่มหนอง → แห้งตกสะเก็ด
▪️ ผื่นอาจขึ้นที่ใบหน้า ลำตัว แขนขา หรือแม้แต่อวัยวะเพศ
4. สายพันธุ์ของเชื้อไวรัส MPOX
- Clade I (หรือ Ib) เป็นสายพันธุ์ที่พบในแอฟริกา มีความรุนแรงสูง
🧬 อัตราการเสียชีวิต 1–10%
🧬 ล่าสุดพบในประเทศไทยจากผู้เดินทางมาจากคองโก - Clade II เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยอยู่ก่อนหน้า อาการไม่รุนแรง
📌 พบได้ในกลุ่มชายรักชาย
📌 มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่า 1%
5. การติดต่อของโรคฝีดาษวานร (MPOX)
MPOX เป็น โรคติดต่อทางผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ:
- สัมผัสโดยตรงกับ ตุ่มหรือสารคัดหลั่ง
- การใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าห่ม หมอน เสื้อผ้า
- รับประทานสัตว์ที่ติดเชื้อโดยไม่ผ่านการปรุงสุก
- ถูกสัตว์ฟันแทะกัด เช่น หนู กระต่าย หรือลิง
6. การวินิจฉัยโรค
แพทย์จะประเมินจาก:
- อาการทางผิวหนังร่วมกับไข้
- ประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง
- การตรวจยืนยันด้วย real-time PCR
ปัจจุบันตรวจได้ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข
การแยกสายพันธุ์มีความสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อการพยากรณ์โรคและแนวทางควบคุมโรคในชุมชน
7. วิธีป้องกันโรค MPOX
🛡 เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ ควร:
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
- สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีผื่น หรือผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง
8. วัคซีนป้องกัน
วัคซีนสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ถึง 80–90%
📍สามารถรับวัคซีนได้ที่ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย (มีค่าใช้จ่าย)
9. ต้องทำอย่างไรเมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ?
หากคุณมีผื่นลักษณะต้องสงสัย หรือมีอาการไข้และเพิ่งเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง:
- แยกตัว เพื่อลดการแพร่เชื้อ
- รีบพบแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
10. ความร่วมมือของทุกคนช่วยหยุดการระบาด
โรคฝีดาษวานร (MPOX) อาจไม่ใช่โรคใหม่สำหรับวงการแพทย์ แต่สำหรับประชาชนทั่วไป การมีความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้ คุณป้องกันตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌 หากคุณมีผื่นผิดปกติ หรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ด้วยความปรารถนาดี
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน
สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายแพทย์
📌 Line@: @Valorclinic หรือ
👉🏻 https://bit.ly/ValorClinicLineOA
🌐 https://thevalorclinic.com/
☎️ 02-287-4924
🗓️ จันทร์-ศุกร์ 9-17 น., เสาร์ 9-12 น.
สะเก็ดเงินรักษาได้ #สะเก็ดเงิน #โรคผิวหนัง #เวเลอร์คลินิก #valorclinic #แพทย์หญิงเปรมจิต #จันทองจีน #หมอผิวหนัง #แพทย์ผิวหนัง #โรคสะเก็ดเงิน #รักษาสะเก็ดเงิน #ฉายแสงอาทิตย์เทียม #ยาฉีดสะเก็ดเงิน #ยาฉีดชีวภาพ #ยาฉีดชีวโมเลกุล #drpukskintalk #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #ฝีดาษลิง #ฝีดาษวานร