
หนึ่งในอาการที่ผู้ป่วยโรคผิวหนังจำนวนไม่น้อยกล่าวถึงเมื่อมาพบแพทย์ผิวหนัง คือ “แพ้เหงื่อ” ซึ่งมักมีการบรรยายว่า “คันเมื่อมีเหงื่อออก” หรือ “พอเหงื่อออกก็รู้สึกแสบ ผื่นขึ้นทันที” แม้อาการจะดูคล้ายกัน แต่ในทางการแพทย์คำว่า “แพ้เหงื่อ” สามารถตีความได้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและกลไกที่แท้จริงของโรค
🔴แพ้เหงื่อ: ในความเข้าใจของผู้ป่วยทั่วไป
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักใช้คำว่า “แพ้เหงื่อ” เพื่ออธิบายอาการ คันผิวหนังหรือมีผื่น ภายหลังที่เหงื่อออก เช่น หลังออกกำลังกาย หรือเมื่ออยู่ในอากาศร้อนชื้น โดยลักษณะของผื่นอาจมีหรือไม่มีรอยแดง บางรายอาจมีเพียงอาการแสบ คัน หรือระคายเคืองเท่านั้น
อาการลักษณะนี้มักพบร่วมกับภาวะผื่นผิวหนังเรื้อรังที่เป็นอยู่เดิม เช่น
✅ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis)
✅โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
✅ผิวแห้งเรื้อรัง หรือผิวที่ขาดความชุ่มชื้น
สาเหตุของแพ้เหงื่อ
สาเหตุหลักของอาการเหล่านี้มักเกิดจากการที่ผิวหนังมีความสามารถในการปกป้องตัวเองลดลง (skin barrier dysfunction) ทำให้เหงื่อซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ กลับกลายเป็นสารระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับผิวที่อ่อนแอ
โดยทั่วไปแล้วอาการประเภทนี้ “ไม่ได้เป็นการแพ้” ตามนิยามของภูมิแพ้ทางการแพทย์ แต่เป็นลักษณะของ การระคายเคือง (Irritant reaction) มากกว่า ซึ่งสามารถวินิจฉัยได้จากประวัติและการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผิวหนัง
🔴แพ้เหงื่อ: ในความหมายของแพทย์
ในมุมของแพทย์เฉพาะทาง “แพ้เหงื่อ” มักหมายถึงภาวะที่เรียกว่า Cholinergic Urticaria ซึ่งเป็น ลมพิษชนิดหนึ่งที่กระตุ้นโดยความร้อนในร่างกาย หรือ การมีเหงื่อออก
ลักษณะอาการ
✅ผื่นแดงนูนขนาดเล็กคล้ายลมพิษ
✅มักมีอาการคัน แสบ หรือปวดร่วมด้วย
✅ผื่นเกิดขึ้นหลังเหงื่อออก ภายในไม่กี่นาที
✅ผื่นมักหายได้เองภายใน 1–2 ชั่วโมง
สาเหตุ
สาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารบางอย่างในเหงื่อ เช่น โปรตีนหรือสารกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ภาวะนี้สามารถพบได้ในคนที่มีสุขภาพปกติ หรือในผู้ป่วยที่มีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังร่วมด้วยก็ได้
อาการรุนแรงที่อาจพบได้
แม้ส่วนใหญ่จะไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ในบางกรณี (ซึ่งพบได้น้อยมาก) ผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรง เช่น: ตาบวม ปากบวม คอบวม หน้าบวม หายใจลำบาก
อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยภาวะนี้ต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด และในบางกรณีอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น การทดสอบภูมิแพ้หรือการกระตุ้นด้วยความร้อนในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้
📌เหตุผลที่ต้องพบแพทย์ เมื่อสงสัยว่า “แพ้เหงื่อ”
เนื่องจากคำว่า “แพ้เหงื่อ” อาจมีความหมายแตกต่างกัน การพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถแยกแยะสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการดูแลที่เหมาะสม
วิธีการดูแลที่แนะนำ เช่น
✅การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยน
✅การใช้ยาทาเพื่อลดอาการอักเสบหรือคัน
✅การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น อากาศร้อน การออกกำลังกายหนัก
✅อาจรับประทานยาแก้แพ้กลุ่ม Antihistamines เพื่อลดอาการคัน
✅การดูแลสุขภาพผิวโดยรวม เช่น การเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
คำว่า “แพ้เหงื่อ” อาจดูเหมือนเป็นคำทั่วไป แต่ในทางการแพทย์กลับมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยมีทั้งลักษณะของการระคายเคืองจากเหงื่อในผู้ที่มีผิวอ่อนแอ และภาวะภูมิแพ้ชนิดเฉพาะที่เรียกว่า Cholinergic Urticaria ซึ่งการวินิจฉัยอย่างถูกต้องก็จะให้การดูแลและรักษาที่เหมาะสมแตกต่างกัน
#ภูมิแพ้ผิวหนัง #คลินิกโรคผิวหนัง #หมอผิวหนัง
#แพ้เหงื่อ #ภูมิแพ้ #ผิวหนังอักเสบ
===========================
📞 โทร. 02-287-4924
📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon
เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7
===========================