แม้ผื่นสะเก็ดเงินน้อย แต่ผลกระทบอาจไม่ต่างจากผื่นมาก

ความเข้าใจโดยทั่วไปเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน

หลายคนมักเชื่อว่าโรคสะเก็ดเงินที่มีผื่นเพียงเล็กน้อยบนผิวหนัง ถือว่ารุนแรงไม่มาก และไม่จำเป็นต้องใช้ยามากนักก็ได้ แต่ในความเป็นจริง ข้อสมมติฐานนี้ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป

งานวิจัยล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่า ขนาดพื้นที่ของผื่นไม่ได้สะท้อนถึงผลกระทบที่ผู้ป่วยได้รับเสมอไป

ข้อมูลงานวิจัย

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Dermatology and Therapy ปี 2025 ได้นำเสนอข้อมูลจาก CorEvitas Psoriasis Registry ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมากกว่า 1,600 ราย ที่ได้รับการรักษาด้วยยาฉีดชีวโมเลกุล (Biologic Therapy) ในระยะเวลานานกว่า 9 ปี เพื่อประเมินผลลัพธ์ด้านคุณภาพชีวิตและอาการที่เกี่ยวข้องกับโรค

ในการศึกษานี้ ผู้ป่วยถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามสัดส่วนพื้นที่ผิวหนังที่มีผื่น ได้แก่

  • กลุ่มผื่นน้อย: < 3% ของพื้นที่ผิว
  • กลุ่มผื่นปานกลาง: 3–10% ของพื้นที่ผิว
  • กลุ่มผื่นมาก: > 10% ของพื้นที่ผิว

ผลการศึกษาวิจัย

ผลการศึกษาพบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีผื่นน้อยกว่า 3% ของพื้นที่ผิว ก็ยังมี คุณภาพชีวิตที่ได้รับผลกระทบใกล้เคียงกับผู้ป่วยที่มีผื่นมากกว่า 10% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผื่นเกิดขึ้นในตำแหน่งที่รักษาได้ยาก เช่น หนังศีรษะ เล็บ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ก่อให้เกิดอาการคัน ความเจ็บปวด และความเหนื่อยล้าจากโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ

จากงานวิจัยนี้ จึงสะท้อนให้เห็นว่า ปริมาณของผื่นเพียงอย่างเดียวไม่สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความรุนแรงหรือความจำเป็นของการรักษาได้เสมอไป แต่ต้องพิจารณาไปพร้อมกับ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

แนวทางการรักษาที่ควรพิจารณา

อาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าผื่นสะเก็ดเงินจะมีพื้นที่มากหรือน้อย หากส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างชัดเจน การรักษาด้วยยาที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาฉีดชีวโมเลกุล ก็อาจเป็นทางเลือกที่ควรได้รับการพิจารณา การใช้ยากลุ่มนี้แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่มีศักยภาพในการควบคุมโรค ลดการอักเสบ และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานวิจัยล่าสุดย้ำชัดว่า โรคสะเก็ดเงินไม่สามารถวัดความรุนแรงได้จากเพียงขนาดพื้นที่ผื่น แม้จะมีผื่นเพียงเล็กน้อย แต่หากเกิดในตำแหน่งที่สำคัญ เช่น หนังศีรษะ เล็บ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ก็อาจสร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้มากพอ ๆ กับผู้ป่วยที่มีผื่นกว้าง การตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาจึงควรอ้างอิงจากผลกระทบต่อการใช้ชีวิตด้วย ไม่ใช่แค่พื้นที่ผื่นที่มองเห็นเท่านั้น

ในปัจจุบัน แนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาฉีดชีวโมเลกุล (Biologic Therapy) อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แม้ในผู้ป่วยที่มีพื้นที่ผื่นน้อย หากโรคส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ การพิจารณารักษาควรทำอย่างรอบด้านภายใต้การตัดสินใจร่วมกันทั้งจากผู้ป่วยและแพทย์ผู้ให้การดูแลรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและสอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละราย


✍️ โดย รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน
แหล่งที่มา: Patient-Reported Outcomes by Baseline Body Surface Area Involvement Among Individuals Initiating Biologic Therapy: Results from the CorEvitas Psoriasis Registry, Dermatology and Therapy, 2025
อ่านบทความต้นฉบับ

#โรคผิวหนัง #drpukskintalk #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #Dermatologist #สะเก็ดเงิน #ยาฉีดชีวโมเลกุล

===========================

📞 โทร. 02-287-4924  

📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon   

เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7

===========================