
โรคสะเก็ดเงินและความซับซ้อนของการรักษา
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่มีลักษณะการอักเสบและเกิดผื่นหนาตัวเป็นสะเก็ดสีเงิน แม้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตใจ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดและการกำเริบของโรคมีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม ความเครียด การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม หรืออาหาร
ในปัจจุบัน วงการแพทย์เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับบทบาทของจุลชีพในร่างกายโดยเฉพาะจุลชีพในลำไส้ (Gut Microbiome) ที่อาจมีผลต่อพัฒนาการของโรคต่าง ๆ
ความเชื่อมโยงระหว่างจุลชีพในลำไส้กับโรคสะเก็ดเงิน
งานวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินจำนวนไม่น้อยมีภาวะ เสียสมดุลของจุลชีพในลำไส้ (Gut Dysbiosis) ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานผิดปกติและทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง ความเชื่อมโยงนี้ถูกเรียกว่า Gut–Skin Axis หรือ “การเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และผิวหนัง” ที่ปัจจุบันได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง
แนวทางการรักษาที่อยู่ระหว่างการศึกษา
ข้อมูลล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Heliyon ปี 2025 ได้รวบรวมแนวทางการรักษาที่มีการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลของจุลชีพในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งประกอบด้วย
- Probiotics และ Prebiotics
การเสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ หรือการรับประทานอาหารที่ส่งเสริมการทำงานของจุลชีพ เช่น โยเกิร์ต ผลไม้ และผักที่มีกากใยสูง - การปรับพฤติกรรมการกิน
ลดอาหารแปรรูปและน้ำตาล เพิ่มอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อช่วยลดการอักเสบในร่างกายและเสริมสมดุลของระบบทางเดินอาหาร - Fecal Microbiota Transplantation (FMT)
หรือการปลูกถ่ายจุลชีพจากอุจจาระ ซึ่งแม้ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย แต่มีรายงานบางส่วนที่ชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
การรักษามาตรฐานและแนวทางเสริม
แม้การรักษาที่เกี่ยวข้องกับจุลชีพจะเป็นแนวคิดที่มีความหวัง แต่ในปัจจุบันยังไม่ใช่วิธีการรักษาหลัก การรักษามาตรฐาน เช่น ยาทาภายนอก ยารับประทาน ยาชีววัตถุ และการฉายแสงอัลตราไวโอเลต ยังคงเป็นวิธีที่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับมากที่สุด แนวทางเกี่ยวกับจุลชีพควรถูกพิจารณาเป็นการรักษาเสริม และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ
การค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างจุลชีพในลำไส้กับโรคสะเก็ดเงินทำให้เราเห็นว่า โรคนี้ไม่ได้เป็นเพียงโรคผิวหนังเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของระบบร่างกายโดยรวม แม้แนวทางการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลของจุลชีพยังอยู่ในระยะวิจัย แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังที่อาจถูกนำมาผนวกรวมเข้ากับการรักษามาตรฐานในอนาคตได้
สำหรับผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับคำปรึกษาและการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผิวหนัง การปรับพฤติกรรมการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอ และการลดความเครียด ล้วนเป็นปัจจัยเสริมที่สามารถช่วยควบคุมอาการได้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว
✍️ ข้อมูลโดย รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน (แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง)
#โรคผิวหนัง #drpukskintalk #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #dermatologist #หมอเปรมจิตรักษาผิวหนัง
===========================
📞 โทร. 02-287-4924
📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon
เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7
===========================