
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งที่สัมพันธ์กับการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมักประสบกับปัญหาผื่นแดง คัน และสะเก็ดบนผิวหนัง ซึ่งอาจกำเริบได้ง่ายเมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง การเสริมสร้างภูมิต้านทานจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยควบคุมอาการและลดความถี่ของการเห่อของโรค
ต่อไปนี้คือ 5 วิธีการดูแลตนเองเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ที่ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน
1. ฉีดวัคซีนตามกำหนด
การติดเชื้อและการเจ็บป่วยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผื่นสะเก็ดเงินกำเริบ วัคซีนจึงมีบทบาทสำคัญในการลดโอกาสการติดเชื้อ รวมถึงลดความรุนแรงของโรคหากเกิดการติดเชื้อขึ้นจริง เพราะเม็ดเลือดขาวที่ผ่านการกระตุ้นจากวัคซีนจะช่วยป้องกันร่างกายได้ดีกว่า การฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นหนึ่งในวิธีเสริมภูมิต้านทานที่ผู้ป่วยไม่ควรมองข้าม
2. รับประทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระ (Free radicals) เมื่อมีอยู่มากในร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเซลล์ ซึ่งมีผลต่อความรุนแรงของโรคสะเก็ดเงิน อาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยลดการอักเสบและเสริมภูมิต้านทานได้ ตัวอย่างได้แก่ ผักและผลไม้หลากสี น้ำมันมะกอก ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการดูแลสุขภาพ
3. นอนหลับให้เพียงพอ
การอดนอนหรือการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อยในการทำให้ผื่นสะเก็ดเงินเห่อ การพักผ่อนที่ดีทั้งด้านปริมาณและคุณภาพช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ โดยทั่วไปแนะนำให้นอนหลับอย่างน้อย 7–9 ชั่วโมงต่อวัน การจัดเวลานอนอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอน และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
โรคอ้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินรุนแรงขึ้นและกำเริบบ่อยขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ การประเมินภาวะอ้วนสามารถใช้ค่า ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) โดยคำนวณจากน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง สำหรับคนเอเชีย BMI ที่ 23–25 ถือว่าเกินเกณฑ์ และมากกว่า 25 ถือว่าอ้วน การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมโรคสะเก็ดเงิน แต่ยังช่วยลดการอักเสบและเสริมภูมิต้านทานได้อีกด้วย
5. ได้รับแสงแดดอย่างเหมาะสม
แสงแดดช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินดี ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิว วิตามินดีไม่เพียงช่วยเสริมภูมิต้านทาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการรักษามาตรฐานโรคสะเก็ดเงิน เช่น การฉายแสงอัลตราไวโอเลต (Phototherapy) ที่ใช้ในทางการแพทย์ การได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้าหรือเย็นวันละ 10–15 นาที จึงเป็นหนึ่งในคำแนะนำที่ช่วยควบคุมโรคและเสริมสุขภาพโดยรวม
แม้ว่าการปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้ออาจไม่สามารถทำได้ครบถ้วนในทุกคน แต่การมีความรู้ที่ถูกต้องและความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินควบคุมอาการได้ดีขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว การดูแลอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
✍️ โดย รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน
#โรคผิวหนัง #drpukskintalk #แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง #dermatologist
===========================
📞 โทร. 02-287-4924
📱 Line: @Valorclinic หรือคลิก https://lin.ee/WiY4qon
เวเลอร์คลินิก สาทร https://maps.app.goo.gl/NEcHNPbuAZNfUVrc7
===========================